ประวัติความเป็นมา
การแกะสลักผักและผลไม้เป็นงานฝีมือซึ่งเป็นศิลปะแขนงหนึ่งของไทยที่มีมาแต่โบราณโดยเริ่มมีขึ้นตั้งแต่สมัยใดไม่ปรากฏแน่ชัด
แต่มีหลักฐานที่ปรากฏในวรรณกรรมเรื่อง นางนพมาศหรือท้าวศรีจุฬาลักษณ์ซึ่งได้บรรยายถึงพระราชพิธีจองเปรียงในวันเพ็ญเดือน 12 รัชสมัย
ของสมเด็จพระร่วงเจ้าแห่งกรุงสุโขทัย เป็นนักขัตฤกษ์ ชักโคม ลอยโคม นางนพมาศ
หรือ
ท้าวศรีจุฬาลักษณ์ ได้คิดตกแต่งโคมลอยให้งามประหลาดกว่าโคมของพระสนมทั้งปวง
โดยเลือกผกาเกสรสีต่างๆ ประดับเป็นรูปดอกไม้ ซ้อนสีสลับให้เป็นลวดลาย และนำผลพฤกษาลดาชาติ มาแกะจำหลักเป็นรูปมยุระคณานกวิหคหงส์
ให้จับจิกเกสรบุปผชาติ อยู่ตามกลีบดอกกระมุท เป็นระเบียบเรียบร้อย วิจิตรไปด้วยสีย้อม
สดสว่าง ควรจะทอดทัศนายิ่งนัก ทั้งเสียบแซมเทียน ธูป และประทีปน้ำมันเปรียง เจือด้วยไขข้อพระโค (กรมศิลปากร, นางนพมาศหรือตำรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์ 2514 : หน้า 97 -98 อ้างอิงใน ณภัทร, แกะผักสลักลาย 2551)
ภาพที่ 1 ผักผลไม้แกะสลัก
ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นนั้น
การแกะสลักผักและผลไม้มีปรากฏขึ้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ซึ่งเห็นได้จากพระราชนิพนธ์ต่างๆ เช่นกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานและเห่ชมผลไม้
บทละครเรื่องสังข์ทอง ตอนนางจันท์เทวีแกะสลักชิ้นฟักเป็นเรื่องของนางกับพระสังข์ และขุนช้างขุนแผน ซึ่งบางตอนจะเป็นเรื่องราววิถีชีวิตของคนไทยในสมัยของกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย อีกทั้งตอนที่มีเทศน์มหาชาติที่วัดป่าเลไลยก์ได้บรรยายถึงการทำหมาก
ประจำกัณฑ์ที่เป็นส่วนประกอบของเครื่องกัณฑ์เทศน์
จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นว่าคนไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย
และในสมัยกรุง
รัตนโกสินทร์ตอนต้นนั้น
รู้จักการแกะสลักผักและผลไม้ เพื่อรับประทานหรือเพื่อตกแต่งอาหารโดยเริ่มปรากฏในวังมาก่อน
ทำให้ทราบว่ากุลสตรีในสมัยนั้นได้รับการฝึกฝนให้พิถีพิถันกับการจัดตกแต่งผัก ผลไม้และการปรุงแต่งอาหารเป็นพิเศษ
การเรียนรู้การแกะสลักผักและผลไม้ในสมัยก่อน เมื่อเริ่มตั้งโรงเรียนสตรีขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (พ.ศ.
2411 – พ.ศ. 2453)
ได้นำวิชาการช่างสตรีมาสอน เช่น วิชาการแกะสลักผักและผลไม้และในปัจจุบันการแกะสลักผักและผลไม้ยังจัดทำการสอนทั้งในระดับโรงเรียน
ระดับวิทยาลัย และระดับมหาวิทยาลัย โดยได้มีหลักสูตรสอนเยาวชนไทยได้รู้จักแกะสลักผักและผลไม้เป็นรูปแบบต่างๆ
ดังนั้น
งานศิลปะการแกะสลัก จึงมีค่าควรแก่การที่จะอนุรักษ์สืบต่อไปจนถึงลูกหลานให้ชาวต่างชาติได้เห็นเอกลักษณ์ความเป็นไทย
อันอ่อนช้อย งดงาม ประณีตละเอียดอ่อนและความอดทนในงานแกะสลักผักและผลไม้ของคนไทย ปัจจุบันมีการสร้างสรรค์งานใหม่ๆ
ขึ้นมา มีการจัดงานประกวดในสถานที่ต่างๆ เพื่ออนุรักษ์งานแกะสลักให้กับคนรุ่นใหม่สืบต่อไป
ภาพที่
2 ผักผลไม้ไทยแกะสลัก
พจนานุกรมฉบับเฉลิมพระเกียรติ พ.ศ. 2530 ได้ให้ความหมายคาว่า “แกะสลัก”ไว้ว่าการทำเป็นลวดลายหรือรูปต่าง ๆ
แสงอรุณ
เชื้อวงษ์บุญ
(2542: 6) กล่าวว่า การแกะสลัก หมายถึง การนำวัสดุต่างๆ เช่น
พืชผัก สบู่ ขี้ผึ้ง และวัสดุอื่นๆมาประดิษฐ์เป็นรูปลักษณ์ลวดลายต่างๆโดยใช้เครื่องมือตัด
จัก เฉือน
เกลา แกะ แซะ คว้านออกจากชิ้นเดิมจนสำเร็จรูป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น